โดยเหตุการณ์นี้ มีผู้เสียหายอายุน้อยสุดเพียง 11 ขวบ แม่เสียชีวิต พ่อไม่สนใจ ทำให้น้องจำเป็นต้องอาศัยอยู่กับนายคุ้งผู้ก่อเหตุ ส่วนจำนวนผู้เสียหายที่แท้จริงยังต้องรอผลการสืบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุเป็นจุดรวมพลที่ทีมงานมูลนิธิใช้จัดกิจกรรมต่างๆ
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มต้นมาจากเด็กชายรายหนึ่ง วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี พลเมืองดี ซึ่งเป็นคนในชุมชน โดยนายเอก บอกว่า ก่อนหน้านี้ เด็กชายอายุ 11 ขวบ ได้ทะเลาะมีปัญหากับทางคนก่อเหตุ จึงมาขออาศัยอยู่ด้วย และเล่าให้ตนฟังว่าถู กนายคุ้งกระทำบังคับให้อมอวัยวะเพศ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนที่เด็กจะมาเล่าให้ฟัง ส่วนตนก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เพราะสงสารเด็ก
ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ ทำให้มีเด็กชายอีก 3 คนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ออกมาเปิดเผยด้วยว่า ตนเองก็เคยถูกกระทำเช่นกัน หลังจากทราบเรื่อง ตนเองก็รีบพาเด็กเข้าแจ้งความทันที จากนั้น ได้แจ้งผู้ปกครองของเด็กที่เหลือ และเมื่อพูดคุยกันแล้วเห็นตรงกันว่าเรื่องนี้ไม่สามารถยอมได้ จึงพาเด็กๆ เข้าแจ้งความกับตำรวจเมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา
จากคำให้การของเด็กชายทั้ง 4 คน เจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายคุ้ง (นามสมมุติ) เป็นคนดั้งเดิมในชุมชน และเป็นหัวหน้าหน่วยของมูลนิธิแห่งหนึ่ง โดยเด็กชาย 3 คนถูกบังคับให้ใช้ปากทำอนาจาร ส่วนอีก 1 คนที่ไม่ยอม นายคุ้งก็จับอวัยวะเพศแทน
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในอู่ทำสีรถยนต์ของนายคุ้ง โดยแต่ละคนถูกล่วงละเมิดในช่วงเวลาที่ต่างกัน โดยนางคุ้งอาศัยช่วงที่เด็กๆ เข้ามาเล่นหรือรอทำกิจกรรมกับมูลนิธิ ทำให้ต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้ก่อเหตุเป็นประจำ ทั้งนี้ ตนไม่รู้จักกับนายคุ้งเป็นการส่วนตัว เพียงแต่เคยเห็นผ่านๆ ในชุมชน ตนมองว่า มันน่าเกลียด เด็กก็คือเด็ก น่าจะปล่อยให้เขาเติบโตไปตามวัย
No comments: